
ทุกครั้งที่คุณสระผมด้วยแชมพู เกล็ดผมจะเปิดออกเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน
แต่ผลที่ตามมาก็คือ… เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้แห้ง แตกปลาย และจัดทรงยาก หลายคนมักมองว่าครีมนวดผมเป็นแค่ “ของเสริม” หลังสระ แต่จริง ๆ แล้วมันสำคัญกับสุขภาพเส้นผมมาก โดยเฉพาะถ้า “มีปัญหาผมร่วง ผมบาง” เพราะครีมนวดจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและลดการขาดหลุดร่วงได้ในระยะยาว
ประโยชน์ของครีมนวดผมที่คุณอาจไม่รู้
- เติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม
หลังสระ ผมจะมีสภาพเป็นด่างเล็กน้อย ทำให้เกล็ดผมเปิด ครีมนวดช่วยเคลือบให้เกล็ดผมปิดลง ผมนุ่มและลื่นขึ้น - ลดการพันกันและขาดหลุดร่วง
ผมที่ชี้ฟูหรือพันกันง่ายมักขาดตอนหวี ครีมนวดจะช่วยให้หวีง่ายขึ้น ลดการดึงรั้งเส้นผม - ป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อนและมลภาวะ
ช่วยเคลือบผมให้มีชั้นป้องกันธรรมชาติจากไดร์ หนีบ หรือแสงแดด - เพิ่มความเงางามและสุขภาพผมโดยรวม
ผมที่ได้รับการบำรุงสม่ำเสมอจะดูเงา ไม่ชี้ฟู และมีน้ำหนัก
ครีมนวดผมสำหรับ “ผมร่วง” ที่ควรใช้
เน้นสูตรที่ บำรุงรากผม + ลดการขาดหลุดร่วง + ฟื้นฟูหนังศีรษะ ส่วนผสมที่ควรมี เช่น
- Biotin – ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผม
- Caffeine – กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตที่หนังศีรษะ
- Ginseng Extract / Ginger / Rosemary – สมุนไพรที่ช่วยลดการหลุดร่วงและกระตุ้นรากผม
- Keratin / Argan Oil / Jojoba Oil – ช่วยซ่อมแซมผมแห้งเสีย ให้กลับมานุ่มลื่น
- Niacinamide (Vitamin B3) – ช่วยบำรุงรากผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง
ใช้ครีมนวดผมอย่างไร ให้ได้ผลดี?
- เลือกสูตรให้ตรงกับสภาพผม เช่น ผมแห้ง ผมมัน หรือผมทำสี
- ทาครีมนวดเฉพาะช่วง “กลางถึงปลายผม” หลีกเลี่ยงหนังศีรษะ
- ใช้ 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือบ่อยตามสภาพผม
- ล้างออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการอุดตันและอาการคันศีรษะ
🧩 สรุป
ครีมนวดผมมีหน้าที่สำคัญในการ ฟื้นฟูและปกป้องเส้นผมหลังการสระ โดยช่วยให้ผมนุ่มลื่น ลดการพันกันและขาดหลุดร่วง เติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม รวมถึงปิดเกล็ดผมให้ผมเงางามและแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันผมเสียจากความร้อนและมลภาวะ และลดการหลุดร่วงได้อย่างเห็นผล
🩺 จองคิวปรึกษาแพทย์ คลิกที่นี่